E-Business and E-commerce
การทำE-Business และ E-commerce คือการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศต่างนั้นเข้ามาช่วยในการดำเนินธุรกิจเพื่อให้การทำงานนั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้นหรือสามารถลดต้นทุนการผลิตลง ดังนั้นการทำ E-Business และ E-commerce จึงไม่ได้จำกัดอยู่ที่การขายสินค้าหรือผลิตภัณฑ์เพียงอย่างเดียว
ตัวอย่าง
· Dell
ไมเคิล เดล เห็นช่องทางในการขายคอมพิวเตอร์ผ่านทางอินเตอร์เน็ต จึงพัฒนาเว็บไซต์เดลดอทคอมขึ้นมา โดยให้ผู้ซื้อนั้นสามารถที่จะเลือกคุณสมบัติต่างๆของคอมพิวเตอร์ได้ตามความต้องการ จนทำให้เกิดเป็นจุดแข็งของบริษัทที่คู่แข่งนั้นไม่สามารถเลียนแบบและปรับตัวได้ทัน
นอกจากนี้ Dell ยังมี Catalog ต่างๆให้ลูกค้าได้เลือกชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ และใช้ระบบพาณิชย์อิเล็คทรอนิกส์บริหารsupply chain ขององค์กรได้ ทำให้กระบวนการรับคำสั่งต่างๆสะดวกขึ้นเนื่องจากส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ของ Dell นั้นผลิตจากจีน แต่นำประกอบที่อเมริกาตามความต้องการของลูกค้า
ในขณะเดียวกันนั้น Dell ได้มี Customer service โดยมีศูนย์หลักอยู่ที่อินเดียในการสั่งซื้อ การสอบถามข้อมูลและปัญหาต่างๆ เนื่องจากอินเดียมีค่าแรงถูก และคนค่อนข้างมีประสิทธิภาพด้านภาษา
· E-bay
เป็นเว็บไซต์ในการประมูลสินค้า โดยเมื่อผู้ซื้อต้องการสินค้าก็สามารถเข้าไป bid แข่งกับคนอื่นได้ จะเห็นว่าสินค้าบางอย่างนั้นผู้ซื้อต่าง bid กันในราคาสูงกว่าความเป็นจริง ซึ่งเหตุผลเนื่องจาก Information asymmetric ทำให้ผู้ซื้อแต่ละรายนั้นมีข้อมูลราคาสินค้าที่แตกต่างกัน รวมถึงธรรมชาติของมนุษย์ที่อยากเอาชนะ ทำให้สินค้ามีราคาสูง
· Amazon
เริ่มจากการขายหนังสือบนเว็บไซต์ ต่อมาเริ่มมีสินค้าหลากหลายมากขึ้นเช่น ซีดี ดีวีดี อีบุ๊คส์ ส่วนเหตุผลที่ amazon นั้นเริ่มจากการขายหนังสือก่อนนั้น เนื่องจากการขายหนังสือจำเป็นต้องใช้พื้นที่ในการขายสินค้ามาก และหนังสือเป็นสิ่งที่ Longtail (มีลูกค้าอีก90%ที่ต้องการของที่ไม่ Mass) ในขณะที่ร้านหนังสือมั่วไปนั้นมักมีสินค้า stock และเลือกเก็บเฉพาะหนังสือ best seller แต่อะเมซอนเห็นว่ามีหนังสืออีกจำนวนมากที่คนจำนวนมากที่ต้องการได้ของที่แปลกออกไป ไม่ใช่แค่พวกที่เป็นที่นิยมเท่านั้น ซึ่งการใช้อินเตอร์เน็ตในการขายหนังสือ จะทำให้คนเข้าถึงหนังสือได้หลายชนิดมากขึ้น และประหยัดพื้นที่
· Click-&-mortar/ Brick-&-mortar
Click-&-mortar เป็นบริษัทที่มีการขายสินค้าทั้งออนไลน์และออฟไลน์เป็นเวปไซต์ขายเกี่ยวกับธุรกิจท่องเที่ยว เช่น ธนาคาร จองตั๋วเครื่องบิน เป็นต้น
EC Model
- Affiliate marketing การเขียน review product หรือการนำเอาลิงค์ต่างๆไปวางในบล็อคหรือเว็บไซต์ที่เราทำไว้ โดยเราก็จะได้เปอร์เซ็นต์ค่าคอมมิสชั่นจากการที่ลูกค้ามาซื้อสินค้า
- Bartering online เหมือนยื่นหมูยื่นแมว เช่น craigslist.com เป็นเว็บไซต์ที่เราอยากทำอะไรก็ได้ คนโพสท์ก็ฟรี คนเข้ามาใช้บริการก็ฟรี เวลาซื้อของหรือแลกของก็สามารถเข้ามาในเว็บนี้ได้ หรืออย่าง Priceline.com เวลาซื้อตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรม เราสามารถเข้าไปเสนอราคา และ match ความต้องการของเราให้ได้
- E-Classified
- Electronic marketplace and exchange
- Electronic tendering การประมูลทางอิเลกทรอนิกส์ มักใช้ใน B2B
- Online Advertiser Marketers & Student เช่น Facebook
- Application Programming Interface การที่บริษัทผลิต Service เพื่อลิ้งค์โปรแกรมและเปิดให้มีการแชร์ได้ เช่น ไอโฟนมีการลิ้งแอพพลิเคชั่น มีผลิตภัณฑ์อะไรก็ไม่เก็บไว้คนเดียว มีการแชร์
- Social Commerce คือการทำการตลาดผ่านบุคคลใกล้ชิดของลูกค้า เพราะ มนุษย์มักให้ความเชื่อถือกับบุคคลใกล้ชิดมากกว่าสื่อทางการตลาดทุกชนิด
Discussion
Benefit of E-commerce
· ต่อองค์กร
- ช่วยขยายโอกาสในการขายไปยังตลาดต่างประเทศด้วยต้นทุนที่ต่ำ
- ช่วยให้บริษัทสามารถคัดเลือกเฟ้นหาวัตถุดิบต่างๆจากทั่วโลก ด้วยต้นทุนที่ต่ำ
- ลดต้นทุนเกี่ยวกับช่องทางการจัดจำหน่าย
- ลดต้นทุนในกระบวนการสร้าง จัดจำหน่าย กระจายสินค้าที่เป็นดิจิตอล
- มีต้นทุนการสื่อสารที่ต่ำ
- ช่วยให้เกิด niched market
· ต่อลูกค้า
- ลูกค้าสามารถเปรียบเทียบราคาของสินค้าจากผู้ผลิตหลายเจ้า
- ช่วยเพิ่มทางเลือกที่หลากหลายให้แก่ลูกค้า
- ลูกค้าสามารถเข้ามาเลือกใช้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถเข้าถึงได้จากทุกแห่ง
- สามารถเข้าถึงข้อมูล รายละเอียด ต่างๆได้โดยใช้เวลาน้อยมาก
- ช่วยให้ลูกค้าได้รับสินค้าที่เหมาะกับความต้องการของตนได้ (customized)
- ช่วยให้ลูกค้าได้รับความสะดวกขึ้นและพึงพอใจมากขึ้น
· ต่อสังคม
- ช่วยลดปริมาณการจราจร การเดินทาง
- ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในสังคมจากการแข่งขันด้านราคาและคุณภาพของสินค้าใน E-commerce
· Limitation of E-commerce
· ข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี ผู้บริโภคและผู้ทำพาณิชย์อิเล็คทรอนิกส์ไม่ได้มีสแตนดาร์ดเดียวกัน อาจทำให้ยากต่อการเชื่อมต่อ รวมถึงด้านความปลอดภัย
· ข้อจำกัดด้านที่ไม่เกี่ยวกับเทคโนโลยี เช่น เรื่องของความปลอดภัย อย่างฐานข้อมูลอาจมีการแฮกได้
Social commerce / social shopping
ปัจจุบันผู้บริโภคมักมีการหาข้อมูลก่อนการซื้อสินค้า เช่น ในเฟสบุ๊ค เรามักจะได้เทรนด์รวมถึงข้อมูลในตัวสินค้าได้จากเพื่อน ซึ่งเราจะเชื่อถือมากกว่าการเข้าไปอ่านข้อมูลสินค้าในเว็บไซต์ของบริษัทนั้นๆ นอกจากนี้เฟสบุ๊คยังมีลิงค์การ review สินค้าของเพื่อนเรา ทำให้เราสามารถเข้าไปดูตามลิงค์นั้นๆต่อไปได้
ตัวอย่าง
· Blogging and Wiki มีความเกี่ยวข้องกับการทำพาณิชย์อิเล็คทรอนิกส์
· E-Catalogs มีแคตตาล็อคออนไลน์และให้คนเข้ามาเลือกของได้ เนื่องจากมีคนอีกมากที่ต้องการดูในลักษณะของหนังสือ
· E-Auctions เป็นพวกเว็บไซต์ประมูลอย่าง e-bay โดยเอาของที่ตกรุ่นมาขาย ซึ่งมักขายได้ราคาดีกว่าขายปกติ
ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงผู้บริโภคกับผู้บริโภค แต่ยังรวมถึงพวก B2B ที่ใช้บริการนี้ด้วย E-Classifieds เช่น e-bay, paypal, half.com เป็นต้น
· Bartering & negociation เป็นเว็บไซต์ที่สามารถแลกเปลี่ยนสินค้าซึ่งกันได้
· E-storefronts มีธุรกิจหน้าร้านตามห้างอยู่แล้ว แต่ยังมีหน้าร้านบนเว็บไซต์ หรือออนไลน์ด้วย ข้อดี ทำให้ลูกค้าสะดวกขึ้นในการดูข้อมูลสินค้า การส่งคืนสินค้าเป็นต้น ส่วนข้อเสีย ลูกค้าไม่เห็นสินค้าของจริงและมีต้นทุนสูง
· Customer service online เช่น true, AIS, ซึ่งมักจะมี Chat FAQ เพื่อให้ลูกค้าหาคำตอบเองก่อน ถ้าไม่ได้จริงๆจึงต้องติดต่อกับทางบริษัทอีกที
· Electronic-malls เช่น MSN shopping, Choice Mall พยายามให้ผู้บริโภครู้สึกเหมือนไปห้างมากที่สุด
· Travel Services บริการข้อมูลเครื่องบิน รถไฟ โรงแรม เช่น Travelocity, hotwire.com, expedia, hotelthailand.com, เป็นต้น
Major models of E-biz
· B2E องค์กรสามารถส่งกระจายข้อมูลไปยังพนักงานทั่วทั้งองค์กร
· E2E การติดต่อสื่อสารระหว่างพนักงานด้วยกันเอง
Payment อาจมีการใช้ Electronic Fund Transfer, Electronic check, Electronic e-card, E-cash AT
Ethical & legal issues in E-biz
· ควรดูชื่อเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ
· พยายามหาข้อมูลบริษัทต่างๆก่อนการทำธุรกรรม
· ดูว่ามี review มากน้อยแค
Hype Cycle
· Cloud Computing
Cloud Computing คือการเชื่อมต่อ network โดยทำให้มองไม่เห็นการเชื่อมต่อ เสมือนกับการมีกลุ่มเมฆปกคลุม
ลักษณะของ cloud computing คือ สามารถเลือกใช้บริการตามช่วงระยะเวลาที่ต้องการได้ โดยผู้ใช้สามารถระบุความต้องการไปยังซอฟต์แวร์ของระบบCloud computing จากนั้นซอฟต์แวร์จะร้องขอให้ระบบจัดสรรทรัพยากรและบริการให้ตรงกับความต้อง การผู้ใช้ ทั้งนี้ระบบสามารถเพิ่มและลดจำนวนของทรัพยากร รวมถึงเสนอบริการให้พอเหมาะกับความต้องการของผู้ใช้ได้ตลอดเวลา ทำให้สามารถช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในช่วงที่ปริมาณ transaction มีไม่มากได้
ลักษณะของ cloud computing คือ สามารถเลือกใช้บริการตามช่วงระยะเวลาที่ต้องการได้ โดยผู้ใช้สามารถระบุความต้องการไปยังซอฟต์แวร์ของระบบCloud computing จากนั้นซอฟต์แวร์จะร้องขอให้ระบบจัดสรรทรัพยากรและบริการให้ตรงกับความต้อง การผู้ใช้ ทั้งนี้ระบบสามารถเพิ่มและลดจำนวนของทรัพยากร รวมถึงเสนอบริการให้พอเหมาะกับความต้องการของผู้ใช้ได้ตลอดเวลา ทำให้สามารถช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในช่วงที่ปริมาณ transaction มีไม่มากได้
ข้อดี
· ประหยัดต้นทุน เมื่อเทียบกับการลงทุนสร้างระบบเอง
· สามารถวัดเป็นผลลัพธ์เป็นตัวเลขได้
· สามารถเข้าถึงศักยภาพด้านไอที
· เน้นไปที่ความสามารถหลักขององค์กร ทำให้สามารถชนะคู่แข่งได้
· เปิดโอกาสให้บริษัทใช้สินทรัพย์ต่างๆไดอย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อระวัง
· Privacy and security เนื่องจากข้อมูลต่างๆ จะถูกส่งไปแบบ cloud computing ดังนั้นอาจต้องคำนึงถึงความปลอดดภัยของข้อมูล
· Non-standard platform ไม่มี platform ที่เป็นมาตรฐานชัดเจน เนื่องจากฟอร์มของแต่ละบริษัทไม่เหมือนกัน
· Reliability ความน่าเชื่อถือ
· Portability สะดวกในการทำงานเนื่องจากสามารถใช้งานได้จากการออนไลน์
· Health Informatics
คือการนำข้อมูลด้านสุขภาพผนวกเข้ากับเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อนำมาใช้ในการจัดการทรัพยากร, เครื่องใช้ต่างๆ และนำมาพัฒนาปรับปรุงวิธีการได้มา, การเก็บรักษาและการใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่เกี่ยวสุขภาพ เช่น ใช้ในคลินิกต่างๆ มีทั้งหมด 5 ประเภท
1. ข้อมูลด้านประชากร เศรษฐกิจและสังคม
2. ข้อมูลด้านสุขภาพ จะรวบรวมข้อมูลสุขภาพบุคคลตั้งแต่เกิดจนตาย
3. ข้อมูลด้านทรัพยากรสาธารณสุข เช่น ด้านทรัพยากรบุคคล ด้านการเงิน เครื่องมือทางการแพทย์
4. ข้อมูลด้านกิจกรรมสาธารณสุข
5. ข้อมูลในการวางแผนและประเมินผล
ข้อดี
- ช่วยลดความผิดพลาดในระบบข้อมูล
- ช่วยในการวางแผนความต้องการและการใช้ทรัพยากรทั้งเงินและบุคลากร
- เพิ่มคุณภาพการรักษาพยาบาล
- ทำให้การบริหารงานสาธารณสุขมีประสิทธิภาพมากขึ้น
· Web 2.0
เว็บ 2.0 คือ รูปแบบของเว็บไซต์รุ่นที่สอง ที่เน้นการนำเข้าเนื้อหาจากผู้เขียนที่หลากหลาย นำไปแสดงในเว็บไซต์ได้มากมาย เกิดเครือข่ายสังคม ด้วยรูปแบบที่ดูง่าย และน่าตื่นตาตื่นใจ เป็นการเปลี่ยนสภาพของเว็บ จากแค่ผลรวมของเว็บไซต์หลายๆแห่ง มาเป็นโครงสร้างพื้นฐานทางคอมพิวเตอร์ที่ให้บริการซอฟต์แวร์ผ่านเว็บให้กับผู้ใช้ ตัวอย่าง Web 2.0 เช่น Youtube, Wikipedia, blogs, fickr เป็นต้น
ลักษณะสำคัญ
· สามารถร่วมใช้งานกับ web brouser wfh
· ผู้ใช้งานสามารถมีส่วนร่วมในเว็ปไซต์มากขึ้นผ่านการแสดงความเห็น
· มี RIA (Rich Internet Application) มี user interface ที่ดียิ่งขึ้น
· มีการพัฒนาและการโต้ตอบระหว่างผู้ให้บริการ และผู้ใช้งาน
· มี mash-up คือการนำฟังก์ชั่นการใช้งานจากเว็บหลายๆที่ๆมาผนวกเข้าด้วยกัน
· มีความรวดเร็วในการส่งข้อมูล
ความแตกต่างระหว่าง Web 1.0 และ Web 2.0
Web 1.0 นั้นการผลิตเนื้อหาต่างๆจะมาจากเจ้าของเว็บไซต์เท่านั้น ผู้ต้องการข้อมูลก็เข้าไปอ่านจากเว็บไซต์หรือค้นหาผ่าน search engine เป็นส่วนใหญ่ ด้วยเหตุนี้เองทำให้เจ้าของเว็บไซต์เท่านั้นที่สามารถสื่อสารได้ ไม่สามารถโต้ตอบหรือแสดงความคิดเห็นได้อย่างเว็บ 2.0 เช่น Double click, Ofoto
No comments:
Post a Comment